Saturday, January 29, 2011

หลังจากห่างหายไปปีกว่า


ได้ฤกษ์มานั่งเขียนblog update เรื่องราวซะหน่อย ตั้งแต่มี FB นี่ไม่ได้จะเขียน blog เลย มีอะไรก็เล่าสั้นๆ บน FB ก็จบ พอคิดจะเขียนที่ก็นึกไม่ออกว่าเขียนอะไรดี แต่พอกลับมาอ่านของเก่าๆ ก็ทำให้นึกถึงได้ดี อืม..บันทึกไว้เป็นความจำได้ดีทีเดียว


(ต่อจากความเดิมปีโน้น)


จิงจิงเรียนที่โรงเรียนกรแก้วได้ประมาณ 4 เดือน ป๊า ม๊าก็ตัดสินใจไม่เอาแหล่ะ มาอยู่บ้านดีกว่า ม๊าคิดถึง จริงๆแล้วโรงเรียนดีเลยนะ ดูแลดี กิจกรมดี ชอบเลยล่ะ แต่ก็อย่างว่าลูกไปโรงเรียนแม่ก็ตกงานสิ เลยออกมาอยู่บ้านให้ม๊าเลี้ยงเหมือนเดิมดีกว่า :) จนเวลาผ่านไปอีก 1 ปี ตอนนี้จิงจิงก็อายุ 3 ขวบจะ 4 เดือนล่ะ จิงจิงเป็นเด็ก ขี้เล่น ชอบกวนโดยที่เค้าไม่รู้หรอกว่ามันกวน (ทีน) เอาแต่ใจที่หนึ่ง ขี้อ้อนก็ชนะเลิศ ความเป็นตัวของตัวเองสูงลิ่ว แต่ก็ขี้ป๊อดเหมือนเดิม (อันนี้คงได้จากแม่เต็มๆ) ตอนนี้ก็ได้เข้าโรงเรียนอย่างจริงจังอีกครั้ง และบางแว๊บก็รู้สึกว่าตัวเองคิดถูกที่ไม่รีบยัดเยียดให้ลูกไปโรงเรียน ตอนแรกก็กังวลว่าลูกเข้าเรียนช้า (เด็กเกิดปลายปี) เพราะใครๆก็ถาม ทำไมยังไม่เข้าโรงเรียน กันเยอะ ก็แอบคิดว่าต้องรีบเหรอ? และตอนนี้ที่ลูกได้ไปโรงเรียนจริงๆ เมื่อเค้าพร้อมและเข้าใจ จิงจิงไปโรงเรียน ไม่เคยร้องไห้เลยตั้งแต่วันแรก ไม่กลัวคุณครู เป็นคนเดียวในห้องที่ไม่ร้อง ส่วนแม่ก็ร้องไห้ตามระเบียบ ยิ่งพอเห็นห้องเรียนข้างๆที่เป็นเด็กเล็กกว่า (ประมาณ 2 ขวบ) ร้องกันจ้าแทบทุกวัน เห็นแล้วอยากเข้าไปโอ๋มาก พ่อแม่เก่งมากๆที่ใจแข็ง แต่ตอนนี้ผ่านไป 3 สัปดาห์ ทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ไม่มีเสียงร้องกันแล้ว จิงจิงกลับมาบ้านก็มาสอนป๊า ม๊า ทุกวัน แถมยังถาม ม๊า ไม่เคยเรียกเหรอ - -" ลูกต้องสอนแล้วเนี้ย ดีใจที่ลูกสนุกกับการไปโรงเรียน ไม่ได้หวังว่าจะต้องเก่งชนะเลิศ เอาแค่กลางๆ แต่ทุกอย่างมันกลมกล่อมก็พอแล้ว


Wednesday, November 18, 2009

ไปโรงเรียนจริงๆ แล้วน๊า

จิงจิงไปโรงเรียนแล้ว ม่าม๊าตัดใจ กัดฟัน ม๊ากมาก ลูกฉันเพิ่ง 2 ขวบเองต้องไปโรงเรียนแล้วเหรอ!! แต่เนื่องด้วยลูกติดแม่ขั้นสุด เลยต้องตัดใจให้ไปอยู่กับคนอื่นบ้าง (เค้าๆ ว่างั้นนะ) ว่าแล้วก็ไปเลย โรงเรียนอนุบาลกรแก้ว เป็นแนวมอนเตสเซอรี่ ไม่เน้นวิชาการมาก (ที่นี่ดีอย่างคือเด็กกลุ่มเล็กมากคือ 4-5 คนต่อครู 1 คน ถ้าเข้าใหม่เค้าจัดครูประกบให้เลย 1 คน จนกว่าจะ join กับเพื่อนๆได้ ) และเค้าไม่ให้ผู้ปกครองอยู่ด้วยเลย อยากอยู่ก็ต้องแอบๆ ไม่ให้ลูกเห็นเดี๋ยวลูกจะหาแม่ แอบก็แอบ (วะ) ว่าแล้วม่าม๊าก็ต้องหาเสา หากำแพง แอบดูลูก วันแรกร๊องโรงเรียนแตกตั้งแต่ไปถึง พอป๊า ม๊า ส่งลูกให้คุณครู ก็ไปหาที่กำบังกัน ป๊าอยู่หลังรถ ม๊าอยู่หลังกำแพง แล้วค่อยๆโผล่หัวขึ้นมาดูลูกเป็นระยะๆ ดูลูกร้องซักพักก็หยุด (ครูเก่งอ่ะ) ลูกหยุดร้องป่าป๊าก็ไปทำงาน ม๊าไปส่งป๊าขึ้นรถไฟฟ้า พอออกจากโรงเรียนเท่านั้นแหละ ต่อมน้ำตาม่าม๊าแตกเป็นเขื่อนเลย ป่าป๊าบอกว่าร้องยังกะลูกไปเรียนเมืองนอก ร้องเยอะจริงจริงยอมรับเลย มันยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก ลูกฉันเคยอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ตอนนี้อยู่กับใครไม่รู้ (เวอร์ไปนิ๊ด...รู้ตัว) ส่งป๊าเสร็จรีบกับมาโรงเรียน ได้ยินเสียงจิงจิงร้องตั้งแต่ลงจากรถ เท่านั้นแหละแม่ร้องด้วยอีก "อยากหาม่าม๊า พาไปหาม่าม๊าหน่อย" ได้ยินลูกบอกครูยั่งงี้ใครจะทนไหว แล้วคุณแม่ก็นั่งร้องไห้อยู่ด้านหลังโรงเรียน พร้อมกับคอยด่อมๆมองลูก ได้ยินเสียงร้องปุ๊บแม่ร้องตามปั้บทุกครั้ง (จิงจิงร้องเป็นระยะๆ พอครูพาไปเล่นก็หยุด นึกได้ก็ร้อง) ส่งลูก 9 โมง รับกลับ 11 โมง เจอกันรีบมากอดกันยังกะลูกเพิ่งกลับจากอเมริกา ตาบวมกันทั้งคู่!
ตอนแรกตั้งใจว่า จะ up blog แบบ live ในวันแรกระหว่างนั่งรอลูกว่างๆ ที่ไหนได้ไม่มีอารมณ์เลย ร้องไห้ตลอดไม่รู้จะร้องอะไรขนาดน้าน

วันที่ 2 จิงจิง เก่งม๊าก ร้องแค่ตอนไปส่งที่ต้องแยกจากม่าม๊า พอสักพักก็ไม่ร้องแล้ว แล้วก็ไม่ร้องจนถึงเวลามารับเลย วันนี้ม่าม๊าไม่ได้อยู๋เฝ้าแล้ว เพราะหลังจากวันแรก คุณครูก็บอกว่า "คุณแม่ไม่ต้องอยู่หรอกค่ะ กลัวคุณแม่ใจอ่อน เอาลูกกลับบ้านซะก่อน" แป่วเลย ก็ได้ (กัดฟันเดินออกมาเลยทีเดียว) แต่พอม่าม๊าไปรับ จิงจิงก็เดินถือแฟ้มประจำตัว มากับครูที่ถึงกระเป๋าให้ เดินหน้านวนมาหาม่าม๊าเองเลยอ่ะ แถมบอกครูด้วยว่า "เอากระเป๋าให้ม่าม๊าจิ" น่านไง ชีสั่งครูซะตั้งแต่วันที่ 2 เลย คุณครูก็ได้แต่ทำตาม แบบขำๆ

Wednesday, September 2, 2009

ทดลองไปโรงเรียนมาจ้า

(ปล่อยของที่ดองไว้ตั้งนานแล้วซะหน่อย เขียนค้างไว้นานจนต่อไม่ถูกเลยทีเดียว)

จิงจิงจะ 2 ขวบแล้ว pa กับ ma เลยต้องเริ่มมองหาโรงเรียนให้จิงจิงก่อนที่จะเต็มไปซะก่อน pa ต้องหยุดงานมาช่วยกันดูเลยทีเดียว ดูกันหลากหลายแนวมาก ตัดสินใจก็ยาก ยังพอมีเวลาคิดอีกสักพักใหญ่ ค่อยๆคิดกันไป

จากการไปตระเวนหาดูที่ เรียนหลายๆที หนึ่งในนั้นก็คือ Magic Years เป็นโรงเรียนอนุบาล inter (ที่จีโน่เคยเรียนก่อนไป) ไปเจอ program free trial หุหุ มีเหรออย่างเรา 3 คนจะพลาด เพราะคงไม่มีโอกาสไปเรียนจริง (สู้ค่าเรียนไม่ไหวอ่ะ) ให้ไปลองเรียนได้ 1 สัปดาห์ ซึ่งเค้าเรียนกัน 3 วันต่อสัปดาห์สำหรับเด็กเล็กก่อน 2 ขวบ งานนี้เราก็ต้องเตรียมตัวกันหน่อยก่อนไป เสาร์ อาทิตย์ เลยต้องซ้อมตื่นเช้า เพราะปัญหาแรกคือต้อง ตื่นเช้ามากกกกก ซึ่งจิงจิงปกติตื่นสายโด่ง แต่ไม่สำเร็จ ไม่กล้าปลุก สงสารดูนอนหลับสนิทมาก เลย เอาวะ ค่อยปลุกวันจันทร์เลยแล้วกัน


และแล้ววันไปเรียนก็ต้องงัดกันขึ้นรถไป

ไปโรงเรียนกันทั้งยั่งงี้เลย



สภาพการจราจรบนถนนแจ้งวัฒนะ เฮ้อ! เริ่มเรียน 8.30 น. จิงจิงไปถึง 9โมง 15


ถึงแล้วเราต้องเปลี่ยนชุดกันก่อนอะไรก็ยังไม่ได้ทาน ต้องดื่มนมก่อน 1 กล่อง ไปถึงเค้าก็เข้ายิมกันแล้ว จิงจิงยัง งงๆ อยู่ ไม่ค่อยได้ร่วมกิจกรรมเท่าไหร่ได้แต่ยืนดู กว่าจะยอมเล่นก็เกือบจบแล้ว

ได้แต่แตะๆ มองๆ งงๆ


10 โมงเค้าก็เบรก ทานของว่างจิงจิงนั่งกินไม่ยอมลุกเลย สงสัยจะหิว

เหลือจิงจิงนั่งทานคนเดียว คนอื่นไปกันหมดแล้ว


หลังทานของว่างเสร็จก็ไปเล่นๆ กันต่อ มีของเล่นเยอะแยะทั้ง indoor outdoor บ่อทราย บ่อน้ำ โต๊ะศิลปะ (ของเปื้อนทั้งน้าน) จิงจิงก็เดินไปสำรวจแต่ละทีแล้วก็ถอยออกมาเล่นของเล่นที่ข้างใน จนคุณครูมาชวนออกไปเล่นสีข้างนอก ก็ไปกับเค้า ยืนดูครูบีบสีต่างๆลงบนกระดาษ พอคุณครูชวนมาทำ จิงจิงก็ถอยหนีแล้วบอกว่า "ไม่เอา ไม่ชอบเปื้อน" แล้วเดินเข้าข้างในไปเลย ...... ม่าม๊า งง เลย พูดเป็นได้ไง (ว่ะ)
แล้วชีก็ออกดูมาอีกตรงที่เป็นกะละมังน้ำ หยิบนู่นนี่มาตักน้ำเล่นซักพัก มีน้องมาเล่นด้วย โดนแย่งที่ตักน้ำไป ไม่มีปัญญาเอาคืน ได้แต่ยืนบอก "ไม่แย่งจิงนะ ไม่แย่งจิงนะ น้องเบบี้ไม่แย่งจิงนะ" อย่างที่เห็นกันในคลิปอ่ะ (ที่ถ่ายได้ในคลิปคือ หลังจากโดนแย่งแล้ว) ไม่รู้ดีหรือไม่ดีที่ไม่แย่งของคนอื่นเนี้ย ดูอีกทีเหมือนไม่สู้คนอ่ะ สุดท้ายทำอะไรไม่ได้เลยเดินไปจะเล่นกะละมังทราย ปรากฏว่าเดินไปไม่ทันไร เท้าเปื้อนทราย เท่านั้นแหละ !!!! โรงเรียนแทบแตก ร้องงงงงซะ พาไปล้างเท้าก็แล้ว เช็ดจนไม่รู้จะทำไง ก็ไม่หายร้องไห้ ไม่เอา ไม่เอา กลับบ้าน อย่างเดียว จนคุณครูบอกว่า วันนี้กลับก่อนก็ได้ค่ะ เราเลยกลับกัน 11 โมง

สรุปวันแรกของการทดลองเรียน ไป 9 โมง กลับ 11 โมง แล้ว เราก็ไม่ได้ไปต่อวันที่ 2-3 เพราะตื่นไม่ทัน !!!


สันโดษตลอด เล่นตรงที่ไม่มีคน แล้วได้แต่แอบมองเพื่อนๆ

Sunday, August 30, 2009

art แม่ art ลูก ไปเรียน ART


อาทิตย์ที่แล้วมีโอกาสได้ไปเรียน art กันเป็นครั้งแรก โดยมีน้าๆ บอกว่า art กันขนาดนี้ ยังต้องไปเรียนอีกเหรอ!!! ( เออ ก็จริงของเค้านะ)

ต้องเกร็นก่อนเลยว่าปกติจิงจิงเป็นคนที่ไม่ชอบเปื้อนเล๊ยยยยย ทั้งๆที่เมื่อก่อนยังพอได้ เดี๋ยวนี้ไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว สงสัยเป็นวัยของเค้ารึป่าวไม่รู้ ไม่สามารถสรุปได้ เพราะเห็นจีโน่ก็เคยไม่ชอบสกปรก คงประมาณช่วงอายุนี้แหละมั้ง แต่บางคนก็ไม่เป็นเลย รุ่นเดียวกับจิงจิงพอเห็นบ่อทรายเป็นวิ่งเข้าใส่ แต่สำหรับจิงจิง ได้แต่ยืนมองเพราะไม่อยากเปื้อนทราย ที่สนามเด็กเล่นที่ในหมู่บ้านเดี๋ยวนี้ไปแต่ที่เป็นสนามหญ้า ตรงมีเครื่องเล่นชิงช้า สไลด์เดอร์ พื้นเป็นบ่อทราย ไม่ไปเลยถ้าไปเล่นต้องอุ้มตลอดไม่ยอมลงเดินทั้งๆที่ใส่ทั้งถุงเท้าและรองเท้าผ้าหุ้มส้นแล้วนะ ยังไม่ยอมลงเลย (แบบ ไม่เอาเปื้อนขั้นสุดอ่ะ ระดับ 10 ได้)

เกร็นยาว.... เข้าเรื่อง
ไปเรียน art ตอนแรกเค้าให้ให้เลานปั้นพวกแป้งโดว์ อันนี้โอเค (ซ้อมมาจากบ้านแล้ว) เล่นได้ดี ต่อมานี่สิ อ้อ! ต้องบอกก่อนว่า class วันนี้เป็นเรื่อง black sheep ก็ให้ทำเกี่ยวกัยสีดำ และ แกะ และร้องเพลง bra bra black sheep , พอเล่นโดว์เสร็จ ก็มาทาสีดำกัน เอาลูกกลิ้งจุ่มสีแล้วมาทาให้ทั่วกระดาษ A3 จิงจิงตอนแรกก็ทำพอมีสีติดมือ นิดนึง (ต้องบอกว่านิดจริงๆ) ไม่ทำแล้ว ยื่นให้ม่าม๊า "ม่าม๊าทำเลย จิงไม่ทำ" และแล้วก็เป็นอย่างที่คาดไว้ ม๊าต้องทาให้และติดกาวต่อให้จนเสร็จ ระหว่างทำก็จะมีเสียง "ม๊า ล้าวมือ ม๊าล้างมือ" ตลอดเวลา รอไม่ได้จริงๆเรื่องนี้
อันต่อมาทำ sheep อันนี้ไม่มีลองทำก่อนครูเอาอุปกรณ์มาให้ปุ๊บ จิงจิงก็บอกเลย "ม๊าทำเลย จิงทำไม่เป็น" แล้วก็ปล่อยให้ม่าม๊านั่งทำ ส่วนตัวเองไปเดินดูของคนอื่นทำ ไปเดินดูแบบจริงจังเลยนะ มีเอามือไปแตะบ่าคุณแม่ของเพื่อนแล้วชะเง้อไปมองอ่ะ จนคุณแม่เค้าบอก "จิงจิง มาลอกการบ้านเหรอลูก" อายยยยย มั้ยเนี้ย

สุดท้ายก็เป็น class art ของแม่ๆ ทั้งหลายที่นั่งทำให้ลูก อย่างที่คิดไว้จริงๆด้วย

ปล. ขอบคุณอาแปะเอ อาอึ้มดาว และจีโน่ สำหรับ มรดกตกทอด class ต่างๆ ของ Gymbolee ค่ะ

ไม่มีชื่อเรื่อง ...

ไม่รู้จะตั้งชื่อเรื่องว่าอะไร เพียงแต่อยากจะบันทึกเรื่องนี้ไว้ซะหน่อย เกิดขึ้นวันนี้เลยสดๆร้อนๆ

เรื่องของเรื่องคือ จิงจิงจะชอบพูดอะไรที่เราคิดไม่ถึง แบบไม่ได้สอนแต่พูดมาเองเลย วันนี้ก็เช่นกัน เนื่องจากช่วง 2-3 วันมานี่จิงจิงไม่ค่อยทานข้าว ป้อนกันจนเหนื่อย และ mama เริ่มชิน พอวันนี้ทานข้าวไปแล้วเหลือซัก 1/3 จิงจิงก็เริ่มแหล่ะ ไม่กินแล้วม่าม๊า จิงดู ABC อยู่ (น่านไง ..) ma ดูแล้วก็เออ โอเค เลยวางถ้วยคงแล้วบอกว่า โอเคไม่กินก็ไม่เป็นไร แล้วก็หันไปดู ABC ต่อ แล้ว..

จิงจิง : mama ไม่โกรธจิงนะ
ม๊า : (หันมามองลูก งง งง ) แล้วบอกว่า ไม่โกรธหรอกลูก ม๊ารักจิงจิง ไม่โกรธจิงหรอก จิงกินแค่นี้ก็ได้
จิงจิง : (ยิ้มมมมม)แล้วพูดว่า " ดีใจ"
ม๊า : น้ำตาคลอ สงสารลูก สงสัยคงเคยเห็นว่าเวลาจิงจิงไม่ทานข้าว แล้วม๊าโกรธแน่เลย

แค่นี้ ม๊าก็ไม่กล้าโกรธลูกแล้ว

และคืองง ว่าจิงจิงคิดได้ไงว่าจะพูดยั่งงี้ เลยรีบโทรไปเล่าให้ papa ฟัง pa เลยบอกให้บันทึกไว้ถึงความประทับใจ เราเลยต้องมา post ซะหน่อย


รักจิงจิง.

Friday, August 28, 2009

อยาก up blog แต่ขี้เกียจจัง

อยาก up blog ตั้งหลายครั้งแล้ว แต่ขี้เกียจพิมพ์อ่ะ พอเริ่มก็ได้แป๊บเดียวหมาน้อยตื่นมาก็ต้อง draft ไว้ จะกลับมาต่อตอนกลางคืนก็ขาดตอนแล้ว นอนดีกว่าบ้างล่ะ เลยมีเรื่องพิมพ์ค้างไว้ตั้ง 4-5 เรืองมาตอนนี้ก็ยิ่งไม่นู้จะต่อยังไง อารมณ์มันไม่ต่อเนื่องแล้ว ตอนนี้ระหว่างรอ download คนแคระทั้ง 7 ให้จิงจิง เลยมาดู bolg ซะหน่อย แฟนคลับจิงจิง ก็บอกให้ up อยู่นั่นแหละ เลยต้องส่ง clip ให้คอยดุกันอยู่เรื่อยๆ ว่าแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เอาซักเรื่องกีกว่า (พรุ่งนี้อีกแล้วเรา )

Thursday, June 4, 2009

ขวบเจ็ดเดือน

ได้ฤกษ์มาอัพ blog กะเค้าซะที หลังจากความขี้เกียจเกาะจนพองทั้งตัว ถือโอกาสจิงจิงครบ ขวบกับอีก 7 เดือนเต็มเมื่อวานนี้มาอัพเดตซะหน่อย

น้ำหนักจ่อยน้อยตอนนี้ 10 กิโล พอดี๊พอดี สูง 82 เซน. กินข้าวยากเย็นแสนเข็น กว่าจะยอมกินแต่ละครั้งเล่นเอา ม่าม๊าอารมณ์เสียไป 85 รอบ แต่ถ้าเป็นขนมนี้ถึงไหนถึงกัน กินท้องแตกเลย เห็นเป็นไม่ได้ เอาปัง เอาปัง ตลอด ช่วงนี้พูดได้เยอะขึ้น ชอบฟังเพลง ร้องเพลง ม๊าก ไปไหนมาไหนกับ ม่าม๊า 2 คนนั่งในรถคนเดียวข้างหลัง พอขึ้นรถปุ๊บ "ม๊า เพลง" ทันที ชอบร้อง " เอ จี เอฟ จี" (A B C D E F G) ร้องได้อยู่แค่นี้แหละ พอเราพาร้องที่ละคำ จบแล้วก็ more ตลอด บางวันคิดว่าจะละเมอเป็น ABC ซะแล้ว อันไหนชอบมากก็จะ more อยู่นั่นแหละ บางทีเต้นกันจนเหนื่อย ก็ลูกเล่น more more ตลอด จนน้าๆบ่นว่า ใครสอนจิงจิงพูด more วะ ซะงั้น!

จิงจิงจำหน้า และเรียกชื่อทุกคนได้แล้ว เพื่อนๆในละแวกบ้าน จำบ้านเค้าได้ด้วย ผ่านบ้านใครเรียกเค้าไปหมด พูดเยอะเวลาอารมณ์ดี บางทีพูดแล้วเราไม่เข้าใจ อะไรนะ อะไรนะ 2-3 ครั้ง ชีจะไม่พูดแล้ว คงเซ็งว่าพูดแค่นี้ป่าป๊า/ม่าม๊าก็ไม่รู้เรื่อง !